Thursday, December 20, 2012

ดียว เมื่อจ้

ราวเดียวกันถึง 3 ราย จึงเหลือจ้อยคนเดียว เมื่อจ้อยอายุได้ 8 ขวบ บิดาได้นำไปฝากไว้กับท่านพระครูวัดมหาธาตุในเมืองพิชัยเพื่อให้เรียนหนังสือ จนจ้อยอายุย่างเข้า 14 ปี ก็สามารถอ่านออกเขียนได้เป็นอย่างดี ในขณะอยู่ที่วัดมหาธาตุนั้นจ้อยชอบดูการชกมวยมาก และเมื่อมีเรื่องชกต่อยกับเด็กวัดด้วยกันจ้อยก็สมารถเอาชนะได้ทุกคน ต่อมาเจ้าเมืองพิชัยได้นำบุตรชายชื่อเจิดกับเด็กรับใช้อีก 3 คน มาฝากเรียนหนังสือกับท่านพระครู อยู่มาวันหนึ่งเจิดและ ลูกน้องได้เกิดการทะเลาะวิวาทชกต่อยกับจ้อย จ้อยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากเจิดเป็นบุตรชายของเจ้าเมือง จึงได้หนีไปโดยตั้งใจว่าจะไปบ้านท่าเสาเพื่อที่จะไปฝึกหัดชกมวยที่นั่นด้วย แต่ระหว่างที่เดินทางถึงวัดบ้านแก่งได้เห็นครูเที่ยงกำลังสอนมวยอยู่จึง สมัครเข้าเป็นศิษย์ และเพื่อไม่ให้คนจำได้ จึงเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า “ทองดี” เนื่องจากทองดีไม่เคี้ยวหมากเหมือนคนทั่วไปในสมัยนั้น จึงมักถูกเรียกว่า “นายทองดีฟันขาว” นายทองดีฝึกมวยอยู่กับครูเที่ยงด้วยความตั้งใจจนมีฝีมือเป็นเลิศกว่าลูก ศิษย์คนอื่นและได้ปรนนิบัติดูแลรับใช้ครูเป็นอย่างดีสม่ำเสมอ กระทั่งอยู่ต่อมาศิษย์รุ่นเก่าของครูเที่ยง 4 คน เกิดอิจฉาที่นายทองดีเป็นศิษย์รักของครู จนเกิดเรื่องชกต่อยกัน นายทองดีเห็นว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีความสุข จึงขอลาครูเที่ยงเดินทางติดตามพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งจะไปนมัสการพระแท่นศิลา อาสน์ โดยนายทองดีได้ไปพักที่วัดบางเตาหม้อ ไม่นานก็ลาพระภิกษุรูปนั้นไปหาครูมวยที่ท่าเสาชื่อ “ครูเมฆ” เพื่อขอเป็นศิษย์ฝึ

0 comments:

Powered by Blogger.